หน้าแรก /

อีเว้นท์ /

เทคโนโลยีเทรนด์ /

เช็กลิตส์ รถไฟฟ้า รุ่นท็อปความจุแบตเตอรี่สูง...วิ่งได้มากกว่า 500 กม. แบตฯยังเหลือ ๆ

เทคโนโลยีเทรนด์

Eventpass Team

เผยแพร่เมื่อ 28 พ.ย. 2566

ช่วงนี้ข่าวน้ำมันราคาขึ้น ๆ ลง ๆ จนลังเลจะเติมหรือไม่เติมบ๊อยบ่อย!! เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตลอด เลยมีคนหันไปซบรถไฟฟ้ากันเยอะมาก ๆ ในช่วงนี้ ถ้าเทียบกับปี 2022 แล้ว ในปี 2023 หลายแบรนด์ก็เริ่มเปิดตัวรถไฟฟ้ากันมากขึ้น และเริ่มเพิ่มจุดขายสร้างความแตกต่างในตลาดรถไฟฟ้า จนทางเราไปสำรวจและรวบรวมรถไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่อึด วิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรมาฝาก จะมีรถรุ่นไหนบ้างเราไปดูพร้อมกันเลย!!

พาส่อง 6 รถยนต์ไฟฟ้า แบตฯทน วิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร

1.Mercedes-EQS 450+

มาที่รถรุ่นแรกจากแบรนด์ดังระดับโลก Mercedes Benz ครั้งนี้ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตัวท๊อปอย่าง Mercedes-EQS 450+ มาให้ทุกคนได้ยลโฉมก่อนจะตัดสินใจซื้อกัน เพราะฟังก์ชันระบบของรถรุ่นนี้น่าสนใจมาก ๆ ตัวรถจะเป็นระบบ EQS 450+ AMG มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 107.8 kWh สามารถชาร์จแบตได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลาเพียงแค่ 31 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าชาร์จด้วยไฟฟ้าที่บ้านจะใช้เวลาอย่างต่ำ 36 ชั่วโมง ที่สำคัญรถคันนี้กำลังแรงม้าสูงถึง 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 586 นิวตันต่อเมตร จะขับในเมืองหรือออกต่างจังหวัดพลังงานไฟฟ้าก็ยังเหลือ ๆ

ความจุแบตเตอรี่ 107.8 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 770 กิโลเมตร มาตรฐาน WLTP

2.Tesla Model 3 Long Range

มาต่อที่ค่ายรถสัญชาติอเมริกันอย่าง Tesla แบรนด์รถไฟฟ้าที่ทุกคนไว้วางใจ แต่ในครั้งนี้ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่มาครองตลาดไฟฟ้าอีกครั้งอย่างรุ่น Tesla Model 3 Long Range ขับเคลื่อนโดยสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ AWD ให้กำลัง 498 แรงม้า แรงบิด 493 นิวตันเมตร มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ NMC 75 kWh ในส่วนของการชาร์จมีสองแบบชาร์จแบบ DC กระแสตรง รองรับการชาร์จสูงสุด 250 kW ได้นานถึง 27 นาที และชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW ใช้เวลาแค่ 8.15 ชั่วโมง ฟังก์ชันครบตอบโจทย์แบบนี้ถึงว่าทำไมคนถึงชอบ Tesla

ความจุแบตเตอรี่ 75 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 681 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC

3.Volvo XC40 Recharge

ค่ายรถสัญชาติสวีเดนอย่าง Volvo ก็ส่งรถไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดเหมือนกัน อย่างรุ่น Volvo XC40 Recharge ก็เป็นที่นิยมในไทยเช่นกัน ด้วยฟังก์ชันระบบจะเป็น Pure Electric Twin Power ปรับปรุงออฟชันใหม่หรือ MY2024 ทั้งภายนอกภายใน รวมไปถึงพลังรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ Twin Motor Dual Motor AWD ก็มีการปรับปรุงใหม่จากความจุแบตเตอรี่เดิม 78 kWh ขยับขึ้นเป็น 82 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แต่ให้กำลังเท่าเดิม 408 แรงม้า ทำให้ระยะทางการขับขี่เพิ่มขึ้นจากเดิม 530 กม.เป็น 645 กม./ชารจ์หนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ในส่วนของการชาร์จเร็วจะเป็นแบบกระแสตรง DC รองรับกำลังไฟสูงสุด 200 kWh ชาร์จจาก 0 ถึง 80% ในเวลาเพียง 28 นาที และชาร์จช้ากระแสสลับ AC ยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม 0-100% ประมาณ 8 ชั่วโมง

ความจุแบตเตอรี่ 82 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 645 กิโลเมตร มาตรฐาน WLTP

4.MG Maxus 9

เราพาไปดูรถไฟฟ้าทรง City Car กันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูรถทรง SUV กันบ้างดีกว่า ขอยกตัวอย่างเป็นรถไฟฟ้าจาก MG รุ่นฮิต MG Maxus 9 ที่มาพร้อมกับ MPV ไฟฟ้าล้วน และเติมประสิทธิภาพด้วยมอเตอร์ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุขนาด 90 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุดที่ 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มากถึง 25 ระบบรอบคัน และมีดีไซน์แบบลักชูรี่ที่โดดเด่นที่สุดบนท้องถนนเลย

ความจุแบตเตอรี่ 90 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 540 กิโลเมตร มาตรฐาน WLTP

5.BMW i4 M50

รถไฟฟ้าทรงสปอร์ตอีกหนึ่งจากแบรนด์ระดับโลก BMW รุ่นนี้คือ BMW i4 M50 ที่เริ่มเห็นตามท้องถนนมประเทศไทยบ้างแล้ว จะปล่อยผ่านได้ยังไงเพราะรุ่นนี้ถือว่าเป็น The Best เพราะฟังก์ชันระบบเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 544 แรงม้า มีแรงบิดสูงถึง 795 นิวตันเมตร พ่วงมาด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 83.9 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 205 kW ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม อยู่ที่ 521 กม. มาตรฐาน WLTP ด้วยดีเทลทั้งหมดนี้สามารถวิ่งภายในเมืองได้สบาย แบบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เลย

ความจุแบตเตอรี่ 83.9 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 521 กิโลเมตร WLTP

6.ORA Good Cat 500 ULTRA

มาถึงแบรนด์ GWM ผู้นำเข้ารถสุดฮิตที่เราเรียกกันว่า "น้องแมว" หรือชื่อจริง ๆ ก็คือ ORA Good Cat แต่ว่ารุ่นที่จะเอามาพูดถึงในวันนี้ก็คือ ORA Good Cat 500 ULTRA ที่เต็มไปด้วยระบบฟังก์ชันพิเศษ มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary ขนาด 63.139 kWh ที่ให้ระยะทางการวิ่ง 500 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ที่สำคัญสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 10 ชม. มาพร้อมระบบชาร์จเร็วกระแสตรง DC 0-80% ใน 60 นาที และ 30-80% ใน 40 นาที เป็นการอัปเกรดที่ยอดเยี่ยมจนอดใจไม่ไหวต้องยกมาพูดถึงให้ได้เลย

ความจุแบตเตอรี่ 63.139 kWh

วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 500 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC

แต่ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงรถไฟฟ้าที่มีความจุแบตเตอรี่สูง และมีระยะทางการวิ่งได้ไกลเกิน 500 กิโลเมตรเท่านั้น ในประเทศไทยยังมีรถไฟฟ้าอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใครสนใจหรือเริ่มมีความคิดอยากหนีน้ำมันมาพึ่งพารถไฟฟ้า แต่ติดปัญหาไม่รู้จะเลือกซื้อคันไหนมาใช้ ลองไปเดินที่งานนี้เลย Motor Expo 2023 ศูนย์รวมแบรนด์รถชั้นนำของประเทศ ที่จะมาจัดแสดงรถให้เราไปเดินชม พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โปรโมชันจุก ๆ แถมยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอีกเพียบ

กิจกรรมกรรมสุดพิเศษจาก Motor Expo 2023สําหรับกิจกรรมคืนกําไรให้ผู้ชมทั้ง ซื้อรถ...ชิงรถ / ซื้อบัตร...ชิงรถ / ซื้อสินค้า...ชิงรถ/ ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิกไบค์ / ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัลมีรายละเอียดดังนี้

1. “ซื้อรถ...ชิงรถ ”เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์NEW MG HS PHEV D มูลค่า 1,299,000 บาท
2. “ซื้อบัตร...ชิงรถ” ผู้ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA V มูลค่า 760,000บาท
3. “ซื้อสินค้า...ชิงรถ”เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่ 2,000บาทขึ้นไป (ยกเว้นการจอง/ซื้อรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และรถใช้แล้ว) มีสิทธิ์ชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ MITSUBISHI ATTRAGE 1.2 ACTIVE CVT A/T ราคา 529,000 บาท จําานวน 1 รางวัล
4. “ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิกไบค์”เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ชิงรถจักรยานยนต์ HONDA รุ่น XL750 TRANSALP 2023มูลค่า 394,000บาท จําานวน 1รางวัล
5. “ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล" ผู้ชิงโชคต้องลงทะเบียนใน MOTOR EXPO APPLICATION โดยกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 มีสิทธิ์ชิงรถจักรยานยนต์ ALPHA VOLANTIS รุ่น HORIZON300มูลค่า 129,900บาท จําานวน 1รางวัล

พิเศษสําหรับผู้ชมงาน มีบริการ “MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR” เป็นแพคเกจชมงานแบบวีไอพี เพียง 700บาท รับสิทธิพิเศษ ที่จอดรถ VIP ณ ลานจอดรถ P1 (1 คัน / 1 สิทธิ์) ฟรีค่าจอด 3 ชม. พื้นที่รับรองพิเศษ EXCLUSIVE VISITOR LOUNGE บัตรเข้าชมงาน ULTIMATE VIP 2 ใบบริการนําาชมรถโดยพนักงานขายของแบรนด์ที่ลูกค้าสนใจและซื้อสินค้าที่ระลึก MOTOR EXPO ลด 10%

เตรียมบุ๊คปฎิทินวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคมไว้เลย!! แล้วมาเจอกันที่ IMPACT Challenger 1-3 ห้ามพลาดนะเพราะรถที่เป็นของคุณอยู่ในงานนี้แล้ว!!

อีเว้นท์น่าสนใจที่ต้องไปให้ได้....