ผ่านพ้นไปแล้วกับงาน Cosmex 2024 งานแสดงเทคโนโลยีการผลิต บรรจุภัณฑ์ และการรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลตนเอง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ครั้งที่ 9 บอกเลยว่างานนี้ไม่ใช่งานคอสเมติกทั่วไป แต่เป็นอีเว้นท์ที่ใครกำลังมีแพลนอยากมีธุรกิจความงามเป็นของตัวเอง ต้องมางานนี้ รับรองว่าได้พบเจอกับผู้ประกอบการในแวดวงความงามมากมาย ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อไปสร้างธุรกิจความงามของตัวเอง และถ้าใครยังไม่มีแพลน มาเดินงานนี้ ได้ไอเดียกลับไปแน่นอน แต่ถ้าใครพลาดไม่ได้ไป Eventpass จัดให้ ไปรีวิวบรรยากาศในงานมาให้ชมกัน
COSMEX 2024
บรรยากาศภาพรวมของงานต้องบอกเลยว่า คึกคักมาก ๆ เพราะเป็นการรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการ บริษัทต่าง ๆ ในแวดวงธุรกิจความงาม ในหลากหลายด้านที่คนทำธุรกิจ ต้องรู้ แบบครบวงจร เริ่มกันที่ประเภท OEM/ODM ก่อนเลย
ประเภท Beauty Devices บริษัทนำเข้าและผลิตอุปกรณ์เสริมความงาม ที่ทันสมัยมาก ๆ บางอย่างมาเห็นอุปกรณ์ในงานคือ ว๊าวมาก นอกจานี้ยังมี
เรื่องของการจดสิทธิบัตรก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้ประกอบการ ควรรู้และศึกษาไว้ ซึ่งภายในงานก็มีบริษัทที่ดูแลด้านนี้ด้วยเช่นกัน
จากที่ได้ลองไปเดินงานนี้ บอกเลยว่า ตอนแรกอาจจะยังไม่ได้มีแพลนในการทำธุรกิจความงามเลย แต่หลังจากได้ไปลองเดินชมงานและพูดคุยกับผู้ประกอบการจากหลาย ๆ บริษัท ก็คิดว่ามีหลายไอเดียที่น่าสนใจเลยทีเดียว แนะนำอยากให้ลองมากันมาก ๆ ปีหน้าต้องไม่พลาดแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมความงามของไทย งานจาก Cosmex 2024
5 เทรนด์ของอุตสาหกรรมความงาม 2025
1. Sustainability
เครื่องสำอางสีเขียวมาแรง เรียกว่าปีนี้ ปีหน้าและในอนาคตต่อไป เป็นปีที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาก ๆ ค่ะ คือ แบรนด์เครื่องสำอางและความงามต่าง ๆ ต้องชัดเจนมาก ๆ ในการแสดงออกให้เห็นว่าทุ่มเทให้กับความยั่งยืน เช่น ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว หรือผลิตเครื่องสำอางที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติ อะไรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเครื่องสำอางฮาลาน ที่ปราศจากการทดลองกับสัตว์ อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นพิษน้อยกว่า ยั่งยืนกว่าเครื่องสำอางแบบเดิม
2. Brand Care
รู้มั้ยคะว่าทั้ง Gen Y และ Gen Z มีการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดูแลร่างกายตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย ก็คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 2.8 พันล้านบาท ในปี 2027 เลยทีเดียว
เติบโตเฉลี่ย 8.2% ต่อปี และ เป็นเพศหญิงวัย 18-24 ปี ถึง 50%
3. Channel-less is Commerse
Channel-less คือ การสื่อสาร ที่ไม่จำกัดอยู่ในช่องทางหรือรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ง่าย ๆ มันคือการสื่อสารที่ไม่ต้องมีช่องทางเฉพาะเจาะจง แต่ยังสามารถทำให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจสินค้าได้ จากการแสดงออก ภาษากาย สัญลักษณ์ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ
4. Deinfluencer
คือเทรนด์การทำ Deinfluencing ที่กำลังเป็นกระแสนิยมในสื่อโซเชียลมีเดียตอนนี้ ซึ่งตรงข้ามกับ Influencer เพราะคนเหล่านี้ออกมาพูดความจริง ที่เป็นทั้งข้อดี และข้อเสียของผลิตภัณฑ์ ไม่ได้อวยสินค้าอย่างเดียว
5. เทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์
เทรนด์นี้ต้องมีในยุคนี้เลยค่ะ เพราะ AI เข้ามาช่วยผู้บริโภคแบบรายคนได้เลยค่ะ เช่น ใช้ AI วิเคราะห์สภาพผิว เพื่อให้ได้สกินแคร์ที่เข้ากับผิวของคน ๆ นั้นเลย คือแก้ไขแบบตรงจุดไปเลย หรือ ใช้นวัตกรรม PerfectGPT for Beauty ให้คำตอบได้หมดค่ะ ทั้งการดูแลผิว เส้นผม แฟชั่น คือดีมาก
ภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมความงาม มูลค่า
พูดถึงภาพรวมอุตสาหกรรมความงามของโลก
ต้องบอกว่า อุตสาหกรรมความงาม ทั้งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางเศรษฐกิจที่ผันผวนมาก ๆค่ะ
41% ของยอดขาย มาจาก Online Platform เช่น TikTok, Temu, eBay
คาดว่ายอดขายสินค้าความงามปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านล้านบาท เลยทีเดียวและคาดว่าจะเติบโตอีก 3.11% ต่อปี ในช่วงปี 2024 – 2029
ส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย มีส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุด มียอดขายอยู่ที่ ประมาณ 9 ล้านล้านบาท
ภาพรวมของฝั่งอาเซียน กันบ้าง
คาดว่ายอดขายสินค้าความงามในอาเซียนปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท
คาดว่าจะเติบโต 3.04% ต่อปี ในช่วงปี 2024 – 2029 40.1% ของรายได้ทั้งหมดมาจากช่องทางออนไลน์
ทิศทางตลาดอุตสาหกรรมความงามประเทศไทยปีหน้า
• สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าในปีนี้ ธุรกิจเครื่องสำอางไทยจะมีมูลค่าถึง 2.81 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 10.4%
มีการผลิตในประเทศ 85% และเป็น 1 ใน 5 อุตสาหกรรมที่ช่วยเพิ่มจีดีพี
• ไทยเป็นผู้ส่งออกเครื่องเครื่องสำอางอันดับที่ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์
• ไทยเป็นผู้ส่งออกเครื่องสำอางอันดับที่ 17 ของโลก
• ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในปี 2566 ไทยส่งออกเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่
รวมมูลค่ากว่า 90,078.76 ล้านบาท โตขึ้น 8.87% จากปี 2565
• ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมของปี 2024 ไทยส่งออกเครื่องสำอาง เครื่องหอม และสบู่ไปแล้ว
มูลค่า 66,008.14 ล้านบาท ซึ่งโตกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว 2023 ถึง 12.49%
สินค้าประเภทเครื่องสำอางและสกินแคร์มีสัดส่วนการส่งออกสูงที่สุด