เมื่อ 500 ล้านปีก่อน หัวใจดวงแรกได้เริ่มใช้ชีวิตโดยพึ่งพาการทำงานของหัวใจเป็นหลัก และวิวัฒนาการที่สำเร็จมากที่สุดคือ "การเลี้ยงลูกด้วยนม" ด้วยความสามารถของการปรับตัวและแก้ปัญหา บรรพบุรุษเลยรักษาอัตลักษณ์ทางพันธุกรรมที่เรียกว่า "เลือดสีขาวจากหัวใจ" ไว้ โดยในนิทรรศการ Mammals จะนำเสนอเรื่องราวที่สะท้อนถึงการดำรงอยู่ของมนุษย์และธรรมชาติ แต่จะมาในรูปแบบไหนและเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมยังไง ต้องมาดูพร้อมกันในนิทรรศการนี้
Mammals นิทรรศการศิลปะสะท้อนความหมายของการดำรงอยู่ของธรรมชาติ และ มนุษย์
นิทรรศนี้มีความอาร์ตแบบสุด ๆ ต้องใช้วิจารณญาณในการดูเป็นอย่างมาก เพราะในห้องจัดแสดงจะให้ความรู้สึกเหมือนเราก้าวเข้าไปในโลกที่สะท้อนการเป็นอยู่ของมนุษย์สมัยก่อน ที่พึ่งพาอาศัยธรรมชาติในการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับสัตว์หลายชนิดรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วยเช่นกัน
มาเริ่มกันที่ห้องแรกมันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของหญิงสาว โดยจะนำเสนอผ่านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่น ช้าง แรด และวาฬ แล้วก็มีความเป็นมาของนิทรรศการรวมไปถึงประวัติของศิลปิน ให้เราได้อ่านเพื่อทำความเข้าใจของแก่นแท้นิทรรศการเวลาเดินชมผลงานต่าง ๆ
แล้วไฮไลต์ภายในห้องนี้ก็คือวาฬสีน้ำเงิน ว่ายตีคู่มากับหญิงสาว แล้วมีกิมมิกน่ารัก ๆ ข้างล่างเป็นพื้นทรายสีขาวสะอาดตา แต่ว่าผลงานชิ้นนี้ก็แฝงความหมายที่น่าสนใจเอาไว้อยู่ด้วย ถ้าใครอยากรู้ว่าผลงานชิ้นนี้จะสื่อถึงอะไรก็ต้องไปดูพร้อมกันที่นิทรรศการ Mammals สักหน่อยแล้ว
อีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือ Unveiled Lotus ผลงานที่อยากจะสื่อถึงความรักและความสูญเสียของคนเป็นแม่ นำเสนอผ่านสัญลักษณ์ ช้างและใบบัว เพราะในสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ช้างจะใช้ระยะเวลาตั้งครรภ์นานมาก ศิลปินเลยอยากเปรียบเปรยว่าการตั้งครรภ์ช้างเต็มไปด้วยความหวังของผู้เป็นมารดา ส่วนใบบัวคือตัวแทนของการปกปิดเหมือนกับสุภาพษิตที่ว่า "ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด" แต่สำหรับงานชิ้นนี้อาจจะสื่อถึงความเสียใจของการสูญเสีย ที่บางทีเราก็ไม่สามารถปกปิดมันได้ทั้งหมดนั้นเอง
มาที่ห้องจัดแสดงข้าง ๆ ไม่รู้คนที่ไปเดินดูงานนี้จะคิดเหมือนกันไหม ว่ามันเต็มไปด้วยอารมณ์ของการต่อสู้ เอาตัวรอด และความเสียใจเต็มห้องนี้ไปหมด คงเพราะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในห้องนี้มีทั้ง สิงโต กระทิง หมี ม้าลาย ที่มีความดุร้ายอยู่ในตัว ห้องนี้เลยเต็มไปด้วยอารมณ์ของไฟท์เตอร์นั่นเอง
ผลงานไฮไลต์ในห้องนี้ที่ชอบมาก ๆ ต้องยกให้ Quantum Black Cat Theory ประติมากรรมเรซิ่นใสที่เป็นตัวแทนของวิญญาณหญิงสาวลอยหลุดออกจากร่าง โดยที่ข้าง ๆ มีแมวเรซิ่นใสคาบลูกแมวดำเอาไว้อยู่ เป็นผลงานที่สะท้อนความรู้สึกอันเจ็บปวดของศิลปินและภรรยาหลังการสูญเสียลูก แรงบันดาลใจอีกด้านคือการเชื่อมโยงชีวิตกับความซับซ้อน และไม่แน่นอนของกลศาสตร์ควอนตัม สื่อถึงการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต และการมองชีวิตในมุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ The Silent Matador ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกีฬาสู้วัวกระทิงของสเปน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและเกียรติยศของบุรุษ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทารุณสัตว์และจริยธรรมหลายเรื่อง เพราะเวทีนี้ผู้ชายครอบงํามาโดยตลอด แต่การเข้ามาของผู้หญิงทำให้ท้าทายบทบาททางเพศแบบดั้งเดิม จนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงถึงบทบาทของผู้หญิงในวัฒนธรรมนี้ ซึ่งแรงบันดาลใจของผลงาน เริ่มมาจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับอํานาจและบทบาทของเพศหญิงในกีฬาสู้วัวกระทิง ที่มักถูกมองผ่านค่านิยมในกิจกรรมสังคมต่าง ๆ และมันก็เป็นเรื่องยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน ที่เพศก็มักจะตัวกำหนดบทบาทหลายอย่างในสังคมเช่นกัน
อยากชวนทุกคนไปนิทรรศการ Mammals ออกเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์สะท้อนถึงมนุษย์ ธรรมชาติ และความหมายของการดำรงชีวิต ทุกผลงานจะมีสตอรี่เรื่องราวจากสังคม ความเจ็บปวด หรือความสุข ให้ทุกคนได้ปล่อยใจซึมซับเรื่องราวบางอย่าง ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ หรือบางทีอาจจะเป็นนิทรรศการที่ตอบคำถามหลายอย่างภายในใจของใครสักคน เพราะฉะนั้นเรามาแวะชมผลงานสุดซึ้งกินใจนี้ไปด้วยกันเถอะ
.
.
นิทรรศการ Mammals
📍 MOCA BANGKOK
🗓️ จัดแสดงวันนี้ - 2 มีนาคม 2568