หากพูดถึงแบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าของประเทศไทยในยุคนี้ "PIPATCHARA" นับว่าเป็นแบรนด์ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สนับสนุนในเรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม (Sustainablility) โดยแบรนด์นี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยนำวัสดุเหลือใช้ เช่น ฝาขวดน้ำ กล่องอาหาร ช้อนส้อมพลาสติก พลาสติกอื่น ๆ มาหลอมและแปรรูปให้เป็นแมทธีเรียลใหม่ในการสร้างสรรค์ผลงานดีไซน์สุดล้ำ ทั้ง เก๋และแปลกใหม่สุด ๆ


หากใครยังไม่คุ้นชินกับแบรนด์ PIPATCHARA เดี๋ยวเราจะพาไปส่องกับเหล่าดาราและเซเลบริตี้คนดังที่ได้สวมใส่ชุดที่มีการดีไซน์อย่างสวยงามและลงตัวสุด ๆ บอกได้เลยว่าสวยมาก ๆ พอได้เห็นแล้วอาจอุทานออกมาว่า "อ่อ !! แบรนด์นี้เอง" แน่นอน

IG : lalalalisa_m

IG : davikah


IG : annethong

IG : lydiasarunrat
รู้จักกับดาราและเซเลบริตี้ไปแล้ว เราก็จะพลาดไม่ได้กับคนสำคัญของแบรนด์ กับคุณ เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์แบรนด์ พร้อมจับมือกับพี่สาวคุณ ทับทิม จิตริณี แก้วจินดา ร่วมก่อตั้ง PIPATCHARA ที่นำเสนอแนวคิดและผลงานสุด Chic ให้พวกเราได้รับชมกัน พร้อมอวดผลงานฝีมือจากคนไทยสู่สายตาคนทั่วโลกกับผลงานแนวคิดที่คำนึงถึงความยั่งยืน ใคร ๆ เห็นแล้วถึงกับต้องว้าว เพราะคงคาดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าผลงานสวย ๆ ทั้งหลายที่ได้ปรากฎสู่สายตาสาธารณชนจะมาจากเพียงวัสดุพลาสติกที่ถูกนำมารีไซเคิลมาแปรรูปและสร้างสรรค์เป็นผลงานชิ้นใหม่ และ เทคนิคการถัก “แมคคราเม่” (Macramé) ที่ต้องใช้ทักษะและความละเอียดอ่อนอย่างมาก ในการประดิษฐ์ชิ้นงาน ให้ได้ 1 ชิ้นมา ทุ่มเทขนาดนี้ สาว ๆ หากใครชื่นชอบผลงานและแนวคิด Sustainability แล้วละก็ พลาดไม่ได้เลยกับแบรนด์นี้ ทั้งดีไซน์และความแปลกใหม่คงได้ใจสาว ๆ ไปครองกันเยอะกันเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ PIPATCHARA
แรงบันดาลใจและวิสัยทัศน์ : คุณ เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ได้รับแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในศิลปะการออกแบบและความต้องการที่จะสร้างเสื้อผ้าที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่ทันสมัยและเทคนิคการตัดเย็บที่มีความละเอียดอ่อน
การศึกษาและประสบการณ์ : ก่อนที่จะก่อตั้งแบรนด์ PIPATCHARA คุณ เพชร ภิพัชรา ได้มีประสบการณ์และการศึกษาในด้านการออกแบบแฟชั่น ซึ่งช่วยให้มีความเข้าใจในกระบวนการออกแบบและการผลิตเสื้อผ้า รวมถึงการพัฒนาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
การก่อตั้งแบรนด์ : การก่อตั้งแบรนด์ PIPATCHARA เกิดจากความต้องการที่จะนำเสนอกระเป๋าหนังผสมผสานการถักแมคคราเม่ ที่มีความหรูหรา เป็นเอกลักษณ์ โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบและผลิตคอลเลคชันแรก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดและช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์
คอลเลคชันแรกและการเติบโต : คอลเลคชันแรกของแบรนด์ PIPATCHARA ได้รับการยอมรับและชื่นชมจากลูกค้าและนักวิจารณ์แฟชั่น เนื่องจากการออกแบบที่มีความละเอียดอ่อนและวัสดุที่มีคุณภาพสูงจากการถักเชือก แมคคาเม่ (Macramé) ซึ่งช่วยให้แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
การสร้างแบรนด์ : หลังจากการเปิดตัวคอลเลคชันแรก แบรนด์ PIPATCHARA เริ่มขยายตลาดและเพิ่มการจัดจำหน่าย โดยมีการเปิดตัวคอลเลคชันใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดแสดงในงานแฟชั่นโชว์และนิทรรศการต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้จักและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

แบรนด์ PIPATCHARA ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการรักษามาตรฐานและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยให้แบรนด์นี้เติบโตและประสบความสำเร็จในวงการแฟชั่นอย่างยั่งยืน
ย้อนไปถึงการก่อตั้งและวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เรามาชมภาพสินค้าคอลเลคชันแรกของแบรนด์ PIPATCHARA กันหน่อย ว่าจะสวย เก๋ และ น่าหยิบมาใช้แค่ไหน !!

ที่สำคัญเลยที่ทำให้แบรนด์ PIPATCHARA โดดเด่นและแตกต่างแบรนด์อื่นๆ คือ ความเป็นงานคราฟ งานทำมือ บวกกับความคลาสสิคและความทันสมัย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น หนัง, ผ้าไหม, ผ้าซาติน, และผ้าทอที่มีลักษณะพิเศษ เพื่อให้เสื้อผ้ามีความหรูหราและสวมใส่สบาย การตัดเย็บความละเอียดและความประณีต และวัสดุที่มาจากการรีไซเคิลที่ส่งเสริมความเป็น Sustainable อีกด้วย
ปัจจุบันมีหน้าร้านในญี่ปุ่น ดูไบ ฝรั่งเศส และประเทศไทย โดย PIPATCHARA มีแนวคิดในการสร้างแบรนด์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในการตีตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว จึงทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์และเหล่าดารา คนดังในต่างประเทศอีกมากมาย ทำให้เป็นแรงขับเคลื่อนของแบรนด์ในต่างประเทศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว


ส่งท้ายกันด้วยการเปิดตัวคอลเลคชันล่าสุดจาก PIPATCHARA ที่ได้ร่วมเดินงานแฟชั่นโชว์ที่ Dubai Fashion Week 2024 กับคอลเลคชัน PIPATCHARA Spring/Summer 2024 ให้ทุกคนได้ชมความงามระดับ MASTER PIECE กันแล้ว
ขอบคุณวิดีโอจาก
@FashionChannel https://youtu.be/_l1aCMLO4wE?si=L1eMQRsjSfwPKrGf
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก