ปีนี้รู้สึกว่าการจัดผัง งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ทำให้เดินง่ายขึ้นมาก แล้วกระจายหนังสือหลายประเภทให้ใกล้ ๆ ทำให้เราเดินแล้วไม่มีเบื่อ เพราะระหว่างช้อปปิ้งก็จะเจอหนังสือทั่วไป หนังสือเด็ก หนังสือเก่า คละกันไป เลยรู้สึกเดินเพลินพอ ๆ กับจ่ายเพลินเลยทุกคน หันไปทางไหนก็มีแต่เล่มที่อยากได้
ก่อนจะไปช้อปหนังสือเล่มใหม่กลับบ้าน ขอมาวอร์มอัพกับกิจกรรมหน้างานกันก่อนดีกว่า เพราะมันจะมีไฮไลต์เป็นการแนะนำหนังสือที่น่าซื้อภายในงาน บางเล่มเป็นหนังสือที่เห็นแนะนำตามโซเชียลด้วยนะทุกคน แล้วถ้าเราซื้อหนังสือภายในงานครบ 500 บาท สามารถลุ้นของรางวัลกับสอยดาวต้นถั่วยักษ์ได้ด้วยนะ แค่นั้นยังไม่พอหน้างานยังมีไฮไลต์กลอนจากยักษ์ให้เราได้อ่านเติมไฟ ก่อนที่จะไปตะลุยช้อปหนังสือพร้อมกันกับสำนักพิมพ์มากกว่า 1,000 บูธ
เข้ามาในงานแล้วรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ จนไม่รู้จะหยิบส่วนไหนมาเล่าก่อน ก็เลยเลือกบูธที่เข้าไปแล้วสะดุดตาที่สุดก็คือ หนังสือทำมือ ที่ข้างในจะเป็นภาพที่วาดและเขียนเรื่องราวด้วยฝีมือล้วน ๆ คือเราจะเห็นหนังสือแบบนี้น้อยมากในปัจจุบัน แต่ความคลาสสิกและความคราฟก็ต้องยกให้หนังสือทำมือแบบนี้จริง ๆ
และยังไม่หลุดจากความคลาสสิกเราขอพาทุกคนไปเลือกหนังสือเก่ากันสักหน่อยดีกว่า เชื่อว่าใครหลายคนต้องมีหนังสือที่เคยอ่านอยู่ในความทรงจำของตัวเองแน่นอน แต่ถ้าอยากอ่านอีกครั้งก็หาอ่านไม่ได้อีกแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าจะมาเจอหนังสือในความทรงจำที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 กัน
อย่างทางนี้ก็โตมากับนิยายแจ่มใสเลยขอมาหานิยายที่อ่านในตอนเด็ก ไปเก็บสะสมในตอนแก่สักหน่อยดีกว่า แล้วราคาคือดีมากทั้งหมดที่หาได้ในร้านหนังสือเก่าใช้จ่ายไปแค่สองแบงค์แดง ในรูปอาจจะมีแค่สามเล่มแต่ได้อีกเล่มในภายหลังครบเซตแบบคุ้มมาก ถ้ามีเวลาจะมานั่งคุ้ยหาหนังสือเล่มเก่าในดวงใจอีกแน่นอน
แล้วเดินเลยมานิดนึงเหมือนหลุดมาคนละโลกเลยเพราะเจอบูธหนังสือเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน แล้วความน่ารักมันสะดุดตามาก คือแอบอิจฉาน้อง ๆ สมัยนี้เลย เพราะว่าหนังสือการ์ตูนและนิทานน่ารักมากน่าอ่านสุด ๆ แล้วสอดแทรกความรู้เกี่ยวเด็กไว้ทุกเล่มเลย เป็นการเสริมทักษะที่ดีเยี่ยม
แล้วความอลังการคือหนังสือสมัยนี้กลายร่างเป็น Pop-Up ขึ้นมาแบบนี้เลย เหมือนกับเป็นการจำลองฉากตามเรื่องเล่าให้เด็ก ๆ ทุกคนได้เห็นภาพและรับรู้ว่ามันจะเป็นแบบไหนยังไง หนังสือดีแบบนี้น่าเหมากลับไปให้ลูกและหลานจริง ๆ
พักยกหนังสือเก่าและหนังสือเด็กสุดน่ารักแล้วไปตะลุยหาหนังสือราคาดีจากโซนร้านหนังสือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ คิโนะกันบ้างดีกว่า จะบอกว่าหาง่ายมาก เพราะโซนหนังสือร้านดัง ๆ ตั้งเรียงอยู่ในแถบเดียวกันเลย เดินง่ายช้อปเพลินสุด ๆ ตรงนี้แอบเดินเบียดกันนิดนึงแต่เข้าใจได้เพราะโซนนี้แมสมากสุดในงานแล้ว
แล้วทางนี้ไม่พลาดขอหยิบหนังสือที่ขายดีมาแนะนำสักหน่อยอย่าง ไอซ์เบรกเกอร์ นวนิยายที่ดังในโซเชียลอยู่พักใหญ่เลย แล้วมีแต่คนแนะนำให้อ่านเพราะเนื้อเรื่องมันแซ่บจนกลายเป็นหนังสือขายดีไปเลย และอีกเล่มที่เป็นตำนาน เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด หนังสือขายดีมากในประเทศเกาหลีที่อยากให้เราได้เข้าใจในช่วงชีวิตหนึ่งของตัวเอกในเรื่อง เป็นหนังสือที่มีแต่คนแนะนำให้อ่านตลอดกาลเลย
แต่ถ้าใครที่มีแผนอยากลงทุนหรืออยากอ่านอะไรที่สามารถต่อยอดความสามารถ ภายในงานก็มีหนังสือเชิงธุรกิจเข้าใจง่ายอยู่ด้วยนะ หรือใครมองหาหนังสือที่จะมาเติมไฟในการทำงานก็มีหลายเล่มที่โดนตกตั้งแต่ชื่อปกก็มี แล้วแบบนี้จะพลาดได้ยังไงขอซื้อสักเล่มแล้วกันนะมนุษย์เงินเดือนต้องรอดเนี้ย
และร้านดังอีกร้านที่ถูกใจชาวอนิเมะหรือคนที่ชอบความญี่ปุ่น ๆ ก็คงหนีไม่พ้น Kinokuniya ร้านที่มัดรวมทุกอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น มีทั้งของพิเศษจากอนิเมะ กระเป๋า หรือสารพัดของกุ๊กกิ๊กทั้งหลาย ในราคาที่ดีมากและมีแค่ในงานนี้เท่านั้น
แล้วใครที่สนใจ E-reader อยากมีเป็นของตัวเองไว้สำหรับอ่านหนังสือ ภายในงานมีจำหน่ายด้วยแล้วราคาดีมีหลายรุ่นให้เราได้ลองจับดูก่อนตัดสินใจซื้อ แอบมีความอยากได้เป็นของตัวเองเพราะฟิลมันเหมือนอ่านหนังสือเลย แล้วมีความภาพคมชัดอ่านเพลินน่าจับจองเป็นเจ้าของจริง ๆ
ไม่รู้คนที่ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 ปีนี้ จะคิดเหมือนกันไหมว่าบูธบอร์ดเกมอลังการมาก ถึงแม้ว่าบูธจะไม่เยอะแต่จัดอลังการสุด ๆ และที่ชอบเลยคือทางเราสามารถลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อได้ด้วย ใครที่มีแพลนว่าอยากซื้อบอร์ดเกมต้องมาช้อปปิ้งภายในงานนี้แล้วไหม
ขอยกตัวอย่างเกมที่ใครก็รู้จักอย่าง DEAD BY DAYLIGHT เกมแมสที่เคยเล่นกันในคอมหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ มากมายบอร์ดเกมที่น่าสนใจมาก แล้วกติกาก็คล้ายกับเกมที่เราเคยเล่นแต่มันก็มีจุดที่ต่างกันอยู่ด้วยนะ ถึงเวลาจับมือเพื่อนแล้วมาหาหนทางเอาตัวรอดในวันที่โลกมันวิกฤตกันเถอะ
มาที่โซนแรกถูกใจคนรักการทำงาน D.I.Y แบบสุด ๆ ก็คือ โต๊ะก็คือโต๊ะ งานคราฟสุดน่ารักที่มาตั้งขายให้เราได้ช้อปปิ้งไอเทมคิวท์ ๆ ที่มีทั้งสติ๊กเกอร์ กิ๊ฟ โปสการ์ด และเครื่องประดับจากหิน มันน่ารักมากเลยแล้วราคาคือไม่แพงจับต้องได้ สามารถซื้อไปเป็นของขวัญสุดพรีเมียมได้ด้วย เพราะมันมีแค่ไม่กี่ชิ้นบนโลกนี้
มาที่โซนสองอันนี้ไอเลิฟเพราะเดินดูหนังสือแล้วซื้อหลายเล่มมันหนักและมันเมื่อยมาก ก็เลยมาแวะ นวดไทย ในโซนใหม่ ๆ ในงานหนังสือกันบ้างดีกว่า คือตอบโจทย์มากและสามารถปรึกษาแพทย์แผนไทยได้ฟรีด้วยนะ คาดหวังเลยว่าปีต่อ ๆ ไปต้องมีโซนนี้อีกนะขอร้อง
รีแคปเลยว่า งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 ต้องมาเดินให้ได้เพราะครั้งนี้ผังงานทำให้เราเดินง่ายขึ้น และมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก แล้วราคาหนังสือก็ดีมีโปรโมชันเพียบเลย เลยแนะนำให้ไปเดินและซื้อตุนไว้อ่านตลอดทั้งปี แล้วปีหน้าก็ไปตุนใหม่เพราะเริ่มรู้สึกถึงอะไรใหม่ ๆ ในงานหนังสือ มันมีความแปลกตาจากปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นคาดหวังแล้วว่าปีหน้าต้องปังกว่าเดิมแน่นอน
.
.
สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53
📍 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
🗓️ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568