- Trivializing : การกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเรื่องที่พูดออกไปมันไม่สำคัญ เช่น อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ไหม , อย่าเวอร์ได้ไหม ,เรื่องเล็กนิดเดียวเอง ซึ่งคำพูดแบบนี้จะทำให้อีกคนฟังรู้สึกด้อยค่าลงในตัวเอง
- Blame-shifting : การกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นคนผิดหรือรู้สึกผิด เช่น เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเธอ, ทำไมถึงชวนทะเลาะอะ, มันเป็นเพราะเธอเราเลยเป็นแบบนี้ ซึ่งคำพูดในเชิงนี้จะเกิดเมื่อตัวผู้พูดไม่อยากรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง
- Denying : การกระทำที่ไม่ยอมรับความจริงมักจะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมามันถูก แต่ไม่ยอมรับความจริงและมักจะปฏิเสธเพราะรับความจริงไม่ได้ เลวร้ายที่สุดก็คือการหาคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกด้อยค่าเพื่อเชิดชูตัวเองขึ้น เช่น เราเป็นคนหาเงินเข้าบ้านนะคุณแค่ทำงานบ้านเฉย ๆ เอง, คุณไม่เคยทำอะไรกล้าพูดเรื่องนี้ได้ไง
- Twisting : การกระทำที่บิดเบือนความจริงเพื่อให้อีกฝ่ายสับสนกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญ วิธีการส่วนใหญ่จะบอกว่าผู้ถูกกระทำเข้าใจผิดไปเองหรือจำรายละเอียดไม่ได้ เพื่อเป็นการกลบเกลื่อนความจริงที่ตัวเองรับไม่ได้
แล้วถ้าเกิดไปอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Gaslighting ขึ้นมาจะทำยังไงดี ?? วิธีง่าย ๆ เลยก็คือเว้นระยะห่างก่อนเลยอันดับแรก เพราะการเว้นระยะห่างจากความปวดหัว จะทำให้เรามีเวลาคิดไตร่ตรองถึงความเป็นจริงมากขึ้น แล้วต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อมามัดตัวคนที่ชอบบิดเบือนความจริงให้ดิ้นไม่หลุด แต่ถ้ายังมีความสับสนอยู่ลองให้มุมมองที่ 3 จากคนนอกช่วยในการตัดสินใจ และถ้าคำตอบมันชัดเจนในทุกด้าน ลองถอยห่างจากความสัมพันธ์ Gaslighting เพื่อรักษาจิตใจตัวเองให้ดีขึ้น เวลาความสัมพันธ์ตรงนั้นจบลง จิตใจของเราก็จะแข็งแรงไม่แตกสลายจนสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปในท้ายที่สุด
.
.
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.psy.chula.ac.th/th/feature-articles/gaslighting
https://www.alljitblog.com/gaslighting/