




โดยในนิทรรศการครั้งนี้ คุณจพได้พบกับผลงานของ ALEX FACE, GREMS, LUGOSIS, MHAK, Mr.OGAY, POSE, REACH, RUKKIT, SONG, TENGA ONE, T-WEST และ yoshi47.
• ALEX FACE
เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1982 ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทยอาศัยและทำงานในกรุงเทพมหานคร
Alex Face (พัชรพล แตงรื่น) เป็นศิลปินกราฟฟิตีชาวไทยที่มีชื่อเสียงในระดับสากล โดดเด่นด้วยผลงานสตรีทอาร์ตที่กระตุ้นความคิดและก้าวข้ามขอบเขตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เขาได้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์สามตาหูกระต่ายอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สื่อถึงความไร้เดียงสาและความพิศวงในปี ค.ศ. 2009 จากแรงบันดาลใจของการก้าวเข้าสู่บทบาทความเป็นพ่อ ด้วยทักษะทางสตรีทอาร์ตที่ชำนาญ ผสานกับการซึมซับเทคนิคของบรรดาศิลปินชั้นครูยุโรป Alex Face ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ผสมผสานทั้งความดั้งเดิมและความร่วมสมัยอย่างกลมกลืน โดยในปี ค.ศ. 2022 เขาได้เฉลิมฉลองเส้นทางศิลปะครบ 20 ปีทั้งในโลกของสตรีทอาร์ตและในสายงานศิลปะร่วมสมัยผ่าน BANGKOK CITY CITY GALLERY และทิ้งร่องรอยอันไม่อาจลบเลือนทั้งบนภูมิทัศน์เมืองและวงการศิลปะในระดับนานาชาติ
• GREMS
เกิดปี ค.ศ. 1978 ที่ปารีส ปัจจุบันอาศัยและทำงานอยู่ที่บิอาร์ริตซ์ ประเทศฝรั่งเศส Grems เป็นศิลปินผู้เปี่ยมพลังและไม่เคยหยุดนิ่ง เขาเป็นศิลปินที่พร้อมจะก้าวข้ามทุกขีดจำกัดอยู่เสมอ โดยมีสองเส้นทางสร้างสรรค์หลักคือ ศิลปะ และ ดนตรี ซึ่งเติบโตเคียงคู่กันและต่างก็ผลักดันซึ่งกันและกันไปสู่การสร้างผลงานที่คาดไม่ถึง แต่ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว
ด้วยพลังสร้างสรรค์ที่ล้นเหลือและการทำงานอย่างต่อเนื่อง ผลงานของ Grems จึงครอบคลุมหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการออกอัลบั้มเดี่ยว 6 อัลบั้ม ผลงานร่วมกับศิลปินและกลุ่มต่าง ๆ กว่า 8 โปรเจกต์ อาทิ Klub Sandwich, Disiz, Rouges à Lèvre, Olympe, PMPDJ และ Foreign Beggars รวมถึงมิวสิกวิดีโอ 15 ชิ้น นิทรรศการศิลปะนับไม่ถ้วนทั้งในปักกิ่ง เพิร์ธ เซบียา เม็กซิโก ลอนดอน ปารีส มาร์กเซย และอีกมากมาย อีกทั้งผลงานกราฟฟิตีที่ปรากฏอยู่บนผนังสำคัญทั่วโลก เช่น Southbank Centre กรุงลอนดอน และ Beaubourg / Musée Pompidou พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่ทรงเกียรติที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส นอกจากนี้เขายังเคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Skullcandy, Nike, Swatch, Asics, Converse, Scott และ Sixpack รวมถึงการก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าของตนเองในชื่อ Ussle
แม้จะสำเร็จการศึกษาจากสถาบันศิลปะชั้นนำของฝรั่งเศสอย่าง Les Beaux-Arts แต่ Grems กลับเลือกเดินนอกกรอบ โดยการทลายกำแพงระหว่างแขนงศิลปะและแนวดนตรีที่ไม่เคยถูกจับมารวมกันมาก่อน เขาคือ MC ชาวฝรั่งเศสคนแรก ที่ริเริ่มผสมผสานระหว่างฮิปฮอป ดีปเฮาส์ และโทนดนตรีแตกหัก (broken beats) พร้อมร่วมงานกับโปรดิวเซอร์และนักดนตรีระดับโลกมากมาย อาทิ Simbad, Son of Kick, Machinedrum, Opolopo, At Jazz และ Foreign Beggars
ด้วยสัญชาตญาณดิบและความมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง Grems จึงเป็นศิลปินที่ถ่ายทอดภาพสะท้อนของยุคสมัย พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้แก่ผู้ชมและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมอยู่เสมอ
• LUGOSIS
Lugosis คือศิลปินร่วมสมัย นักสัก และนักเขียนกราฟฟิตีชาวอิตาลี ปัจจุบันพำนักและทำงานอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ผลงานของเขาได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากการ์ตูนและแอนิเมชันหลากหลายสัญชาติ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นสื่อในการสำรวจเหตุการณ์ในชีวิต ความสัมพันธ์ทางสังคม และวัฒนธรรมเยาวชน
ตลอดเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา เขาได้สร้างโลกแห่งตัวละครของตนเองขึ้นมา โดยมี “Lugo The Kid” เป็นตัวละครหลักและถือเป็นภาพสะท้อนตัวตนของเขาเอง ขณะเดียวกัน Lugosis ยังชื่นชอบการนำเอาตัวละครไอคอนิกจากนักวาดการ์ตูนคนอื่น ๆ มาผสมผสานเข้ากับผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็น Looney Tunes, ตัวละครจาก Disney หรือแม้แต่มาจากอนิเมะญี่ปุ่น
แม้ Lugosis จะทำงานหลักด้วยสเปรย์ มาร์กเกอร์ และเครื่องสัก แต่เขายังคงทดลองเทคนิคและเครื่องมือใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ผลงานที่ผ่านมาได้รวมถึงงานจิตรกรรมด้วยสีน้ำ สีอะคริลิก ตลอดจนงานสเก็ตช์ด้วยถ่านไม้
เขาจัดแสดงผลงานอย่างสม่ำเสมอในประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่น ซึ่งผลงานของเขาได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากสาธารณชนและแวดวงศิลปะ นอกจากนี้ Lugosis ยังสร้างฐานผู้ติดตามจำนวนมากในระดับนานาชาติ โดยมีแฟน ๆ ทั่วโลกที่ร่วมติดตามเส้นทางการสร้างสรรค์ของเขามาอย่างยาวนาน
• MHAK
MHAK เกิดที่เมืองไอสุวากามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ ผลงานของเขาได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายใน โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมฝาผนังภายในอาคาร เขามองว่าศิลปะการวาดภาพคือส่วนหนึ่งของการออกแบบตกแต่งภายใน และหัวใจสำคัญของงานคือการอยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิต ด้วยเหตุนี้ MHAK จึงได้ฝากผลงานไว้ทั้งในโรงแรมและบ้านพักส่วนตัวมากมายด้วยลายเส้นโค้งและรูปแบบการทำซ้ำอันเป็นเอกลักษณ์ เขาเชื่อว่าภาพวาดควรถูกมองในฐานะ “บรรยากาศ” มากกว่า “วัตถุ” และนี่คือเหตุผลที่เขายึดมั่นในความเป็นนามธรรมในผลงานของเขาเสมอ
ผลงานของ MHAK ได้รับการจัดแสดงมาแล้วในหลายเมืองสำคัญทั่วโลก อาทิ นิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส พอร์ตแลนด์ บัวโนสไอเรส เมลเบิร์น ซิดนีย์ มิลาน โซล ปักกิ่ง และกรุงเทพฯ โดยเขายังเป็นสมาชิกของกลุ่มศิลปิน 81 BASTARDS และสังกัด Gallery TARGET อีกด้วย
• Mr.OGAY
Mr. OGAY คือศิลปินสตรีทอาร์ตจากไต้หวัน ผู้เรียกตนเองว่า “เยาวชนหัวร้อนที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก” เขาได้รับเชิญให้ไปร่วมโปรเจกต์กราฟฟิตีในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และนิวยอร์ก ผลงานของเขามักใช้ชายเปลือยกายที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเป็นมอทิฟหลัก นับตั้งแต่เริ่มก้าวเข้าสู่โลกกราฟฟิตีในปี ค.ศ. 2000 ผลงานของเขาก็ได้ปรากฏอยู่บนกำแพงทั่วไต้หวัน และยังสร้างสถิติเป็นศิลปินที่ถูกแจ้งความบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไต้หวันอีกด้วย
สำหรับ Mr.OGAY การสร้างสรรค์คืองานศิลป์ที่ซื่อสัตย์ต่อการเผชิญหน้ากับความจริงในตัวเอง ด้วยความรักต่อบ้านเกิด ผลงานของเขาจึงสะท้อนน้ำเสียงวิพากษ์ต่อเหตุการณ์ร่วมสมัยอย่างเข้มข้น การวิจารณ์สังคมไต้หวันของเขาเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เฉียบคม และยากจะโต้แย้งได้ โดยใช้ อารมณ์ขัน เป็นเครื่องมือปลุกให้ผู้คนตระหนักถึงความปรารถนาพื้นฐานของมนุษย์ ขณะเดียวกันก็เสียดสีความหน้าซื่อใจคดและศีลธรรมจอมปลอมในสังคม
• POSE
POSE เริ่มต้นเส้นทางกราฟฟิตีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 และได้ขยายขอบเขตการทำงานอย่างต่อเนื่องไปสู่การสร้างสรรค์มิวรัล การร่วมงานเชิงพาณิชย์ และนิทรรศการระดับนานาชาติทั่วโลก เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาศิลปะ (BFA) จาก Kansas City Art Institute ในปี ค.ศ. 2004 ก่อนจะนำประสบการณ์จากโลกกราฟฟิตีมาต่อยอดเป็นผลงานที่ผสมผสาน “ภาษาภาพ” อันคุ้นเคยจากวัฒนธรรมป๊อป ไม่ว่าจะเป็นป้ายถนน หนังสือการ์ตูน หนังสือพิมพ์ หรือโฆษณา ผ่านการตีความใหม่ทั้งการตัดทอน การทำดิจิทัล และการประกอบสร้างขึ้นใหม่ เพื่อบันทึกและ “ทำให้เป็นอมตะ” ซึ่งช่วงเวลาแห่งยุคหลังอุตสาหกรรมในสังคมดิจิทัลปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 2015 POSE ได้รับการยกย่องจาก CNN ให้เป็น “One to Watch” ผลงานของเขาได้รับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สำคัญหลายแห่ง อาทิ Museum of Contemporary Art Los Angeles, Museum of Contemporary Art Denver, Powerlong Museum เซี่ยงไฮ้, Museum of Contemporary Art เฉิงตู และ Chosun Ilbo Museum of Art กรุงโซล รวมถึงยังได้รับการสะสมอยู่ในคอลเลกชันส่วนบุคคลทั่วโลก
• REACH
REACH เกิดในปี ค.ศ. 1981 และทำงานอยู่ที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เขาเริ่มต้นเส้นทางกราฟฟิตีในปี ค.ศ. 1995 และเป็นผู้ก่อตั้ง SOUL SKOOL กลุ่มกราฟฟิตีกลุ่มแรกของไต้หวัน อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย ในช่วงแรกของอาชีพ เขาเข้าร่วมศิลปินพำนักและเทศกาลศิลปะนานาชาติในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น จีน และอีกมากมาย
หนึ่งในผลงานยุคแรกที่โดดเด่นคือ “Lightning Pink Bear” ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 เขาได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และพัฒนาสไตล์ส่วนตัวขึ้นใหม่ในชื่อ “CAT PAW” โดยมุ่งเน้นงานจิตรกรรมและมิวรัลเป็นรูปแบบหลักในการสร้างสรรค์
ในปี ค.ศ. 2008 REACH ได้ตีพิมพ์หนังสือ “TOOYA! Taiwan Graffiti” ซึ่งบันทึกเรื่องราวประสบการณ์และวัฒนธรรมกราฟฟิตีในไต้หวัน และในปี ค.ศ. 2010 เขาได้ร่วมก่อตั้งนิตยสารศิลปะอิสระ “RADIKAL” เพื่อผลักดันวัฒนธรรมสตรีทอาร์ตให้กว้างไกลยิ่งขึ้น โดยในปี ค.ศ. 2014 และ ค.ศ. 2015 REACH ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไต้หวันเข้าร่วมงาน “POW! WOW! Hawaii” และรับหน้าที่ผู้อำนวยการศิลป์ของ “POW! WOW! Taiwan” ต่อมาในปี ค.ศ. 2021 เขาก่อตั้ง “Graffiti Social Club” และทำหน้าที่ภัณฑารักษ์จัดนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ Juming Museum
• RUKKIT
รักกิจ สถาพรวจนา เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1978 เป็นทั้งนักออกแบบกราฟิกและศิลปินสตรีทอาร์ต เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเริ่มต้นงานศิลปะบนท้องถนนในปี ค.ศ. 2011 ด้วยการใช้เทคนิคสเตนซิลในรูปแบบเรขาคณิตอันโดดเด่นและเปี่ยมสีสัน
ผลงานของรักกิจปรากฏอยู่บนกำแพงในหลายเมืองทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย เกาหลีใต้ (โซล, ปูซาน) อินเดีย (นิวเดลี) ฮ่องกง ดูไบ จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น โดยเขาเคยร่วมงานกับแบรนด์และองค์กรชั้นนำมากมาย อาทิ Nike, Casio G-Shock, Toyota, Tiger Beer, U Beer, Smirnoff, Absolute Vodka, Lacoste Live, Jaspal, Dtac, Wonderfruit Festival, Be@rbrick Medicomtoy, CentralWorld, Siam Center, Ananda Development, Mahanakhon และ Starbucks
• SONG
SONG ศิลปินกราฟฟิตีจากเมืองจางฮว่า ไต้หวัน และสมาชิกหลักของกลุ่มศิลปะสตรีท FLOW DOWN โดดเด่นด้วยการหลอมรวมภาษาทางสายตาของกราฟฟิตีเข้ากับวัฒนธรรมโอตาคุเพื่อสร้างสรรค์ศิลปะรูปแบบเฉพาะตัวที่เขาเรียกว่า “Manga Graffiti” ศิลปะที่ดำรงอยู่ระหว่างความดิบและความเปราะบาง ผลงานของเขามักถ่ายทอดโลกตัวละครที่เต็มไปด้วยอารมณ์ สะท้อนความขัดแย้งและแรงปรารถนาภายในของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองและการต่อสู้ส่วนตัว ซีรีส์สำคัญของเขา ได้แก่ Takumashii Syonen, Bitten Boy, Eyes, และ Houses
แนวทางการทำงานของ SONG ครอบคลุมตั้งแต่กราฟฟิตี ภาพประกอบ การออกแบบตัวละคร การพัฒนาของเล่น แอนิเมชั่น ไปจนถึงงานติดตั้งเฉพาะพื้นที่ เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์นานาชาติอย่าง Hennessy, ASUS, B&W, Vans และ Kirin รวมถึงเข้าร่วมโครงการศิลปะร่วมสมัยและนิทรรศการหลากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี มาเก๊า ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขยายขอบเขตของกราฟฟิตีสู่โลกแอนิเมชั่นและงานติดตั้งในพื้นที่ SONG จึงพัฒนาตัวละครและต้นแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้นิทรรศการ เวิร์กช็อป และโปรเจกต์เชิงพาณิชย์เป็นเวทีเชื่อมโยงวัฒนธรรมสตรีท ป๊อปคัลเจอร์ และศิลปะร่วมสมัย เขามองว่าภาพไม่ใช่เพียงเครื่องมือแสดงออก แต่ยังเป็นพาหนะสำคัญในการสร้างระบบการเล่าเรื่องสายตาแบบใหม่ ผ่านสายตาของตัวละคร โลกที่พังทลาย และสัญลักษณ์ร่วมสมัยที่เขาสร้างขึ้น
• TENGA ONE
TENGA ONE เริ่มทำกราฟฟิตีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 โดยในวัยยี่สิบกว่า ๆ เขาสร้างสรรค์ผลงานเป็นกำแพงและการแทรกแซงในพื้นที่เมืองอยู่บนท้องถนน กระทั่งเข้าสู่วัยสามสิบกลาง ๆ จึงเริ่มหันมาทบทวนความขัดแย้งภายในที่ได้เผชิญผ่านวัฒนธรรมกราฟฟิตี ทั้งความไม่เป็นธรรม การถูกทำให้ไร้ตัวตน และความซับซ้อนของชีวิตคนเขียนกราฟฟิตี เขาเริ่มแกะสลัก MDF ให้ดูคล้ายกระดาษลังเพื่อตีความประสบการณ์เหล่านี้ แล้วใช้เป็นพื้นผิวเชิงประติมากรรมในการวาดตัวละครที่ได้แรงบันดาลใจจากแอนิเมชั่นญี่ปุ่น วิธีการดังกล่าวผสานระหว่างรูปทรงที่ผ่านการแกะสลักด้วยมือกับภาพจำจากป๊อปคัลเจอร์ ก่อเกิดเป็นภาษาทัศนศิลป์ที่มีหลายชั้นความหมาย
ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ที่โตเกียว กราฟฟิตีเริ่มแพร่หลายและถูกมองว่าเป็นปัญหาสังคม ที่ในเวลานั้นพยายามตีกราฟฟิตีให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของอาชญากรรม แต่สำหรับ TENGA ONE เขาเชื่อมาตลอดว่ามูลค่าทางศิลปะของกราฟฟิตีและโลกภายในของผู้สร้างนั้นไม่ควรถูกลดทอนเช่นนั้น
ผลงานของเขาจึงแฝงการต่อต้านแผ่วเบาต่อการตีความที่ตื้นเขิน พร้อมเผยให้เห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ น้ำหนักทางอารมณ์ และความขัดแย้งในวัฒนธรรมที่มักถูกเข้าใจผิด เขาเคยอยู่ภายใต้การดูแลของ Kaikai Kiki Gallery จนถึงปี ค.ศ. 2024 และเคยจัดแสดงผลงานในงานระดับนานาชาติอย่าง Art Basel Hong Kong, Frieze New York รวมถึงนิทรรศการเดี่ยวที่ Kaikai Kiki Gallery และพื้นที่อื่น ๆ อีกมากมาย
• T-WEST
TEMPORARYWEST ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2018 โดยกลุ่มศิลปินสตรีทอาร์ตที่รวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมเชิงชุมชนในบ้านเกิดของ Y? อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กลุ่ม TEMPORARYWEST ได้ทำหน้าที่ผลักดันและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกราฟฟิตีและสตรีทอาร์ตในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษไปที่การสร้างพื้นที่ การส่งเสริม และการเสริมพลังให้กับศิลปินรุ่นใหม่
ปัจจุบัน กลุ่ม TEMPORARYWEST ประกอบด้วยสมาชิก 10 คน ได้แก่ Y?, YOUNGPRAY, FREAK, HOIE, R-KOI, MR.KREME, PICABOO, ORON, MONTEMITH และ DEIO
• yoshi47
yoshi47 เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1981 ที่จังหวัดกิฟุ และเติบโตที่จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออายุ 20 ปี เขาย้ายไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อเดินหน้าสู่เส้นทางศิลปะ และใช้เวลาสี่ปีในย่าน Bay Area เพื่อทำงานศิลปะสด (live painting) สร้างสรรค์งานจิตรกรรมฝาผนัง รวมถึงจัดแสดงผลงานทั้งในนิทรรศการเดี่ยวและงานศิลปะต่าง ๆ โดยขณะอาศัยอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เขาได้รู้จักกับกลุ่มนักปั่นจักรยานและเริ่มต้นอาชีพเป็นแมสเซนเจอร์บนจักรยาน ซึ่งประสบการณ์นี้ได้กลายเป็นทั้งปรัชญาการใช้ชีวิตและรากฐานแนวคิดทางศิลปะของเขา
ในปี ค.ศ. 2006 เขากลับมาที่ญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียวในช่วงแรก โดยยังคงทำงานเป็นแมสเซนเจอร์ ควบคู่กับการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมจักรยาน ตลอดจนขยายกิจกรรมไปสู่งานภัณฑารักษ์ งานความร่วมมือกับบริษัทและโครงการต่าง ๆ พร้อมกับจัดแสดงผลงานในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน yoshi47 อาศัยอยู่ที่ชนบทคาบสมุทรอัตสึมิ ที่ซึ่งเขาสามารถใช้ชีวิตไปกับการปั่นจักรยาน เล่นเซิร์ฟ ตกปลา และทำการเกษตร ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงหล่อเลี้ยงแรงบันดาลใจและมุมมองที่สะท้อนอยู่ในงานศิลปะของเขา

