เขียนเมื่อ 05 มี.ค. 2563
เตือนภัยชาวกรุงที่อยู่ตึกสูง ไม่ว่าจะทำงานบนอาคารสูง หรืออาศัยอยู่ในคอนโด
โรคตึกเป็นพิษ เป็นโรคที่วงการแพทย์กำลังให้ความสนใจ และเฝ้าระวังอยู่ในช่วงนี้ เนื่องจากพบประชากร 1 ใน 3 ของผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองมีประวัติป่วยเป็นกลุ่มโรคนี้ และแนวโน้มผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โรคตึกเป็นพิษ หรือ Sick building syndrome เป็นกลุ่มของโรคที่แสดงอาการเมื่อต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากการใช้ชีวิตในอาคารสูง ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัย โดยกลุ่มโรคนี้จะสัมพันธ์กับมลภาวะทางอากาศ ซึ่งคาดว่าในปี 2020 จะมีคนเมืองป่วยโรคนี้กันมากขึ้น
สาเหตุของโรคกลุ่มนี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความหนาแน่นของประชากรในเมืองกรุง การจราจรติดขัดจากจำนวนรถที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงจากตัวอาคารเองที่เป็นโครงสร้างแบบเก่า ระบบระบายอากาศไม่ถ่ายเท พรมทางเดินมีไรฝุ่น การใช้สีทาผนังซึ่งเต็มไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ มีความชื้น รอยรั่วซึมซึ่งทำให้เกิดเป็นเชื้อราตามฝาผนัง
อาการของโรค
- อ่อนเพลียง่าย ปวดหัว หายใจไม่สะดวก
- แสบคอ คันตา คันจมูก คันตามผิวหนัง
- ไอ จาม คลื่นไส้
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ โรคหอบ คือกลุ่มเสี่ยงพิเศษที่ได้รับผลกระทบมากกว่าผู้อื่น อาจมีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น ต้องระมัดระวังตัว และทำร่างกายให้แข็งแรงกว่าปกติ
วิธีการป้องกันโรค
- ปรับปรุงสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- คอนโดที่อยู่อาศัยควรใช้เครื่องฟอกอากาศ และเปิดทิ้งไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที
- จัดห้องนอนให้โล่ง ปลอดโปร่ง ไม่ควรใช้พรม เสี่ยงต่อการกักเก็บไรฝุ่น ผ้าม่านต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการมีตุ๊กตาและหมอนจำนวนมาก เพราะเสี่ยงต่อการกักเก็บไรฝุ่น เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้
- ติดตามข่าวสารสุขภาพอยู่เสมอ พกหน้ากากอนามัยให้เป็นนิสัย และยิ่งเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก หรือที่มีคนมาก ๆ เพื่อลดความเสี่ยงทั้งฝุ่นและไวรัสด้วย
- ทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารทีมีประโยชน์ ถูกสุขอนามัย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ
โรคตึกเป็นพิษจะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด หากรู้จักวิธีการระมัดระวังตัว หรือหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของโรคตามคำแนะนำของแพทย์ สิ่งที่ง่ายที่สุดคือเริ่มจากตัวเราเอง โดยเริ่มจากใส่ใจสุขภาพ ทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ที่มาข้อมูล : hfocus.org
Powered by Froala Editor
chomchomme