ชายคาสีขาวหลังใหญ่อายุกว่าร้อยปีที่ถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ร่มเงาของแมกไม้อันร่มรื่นแห่งนี้ ถูกเรียกขานว่า ‘พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก’ สถานที่ที่จะพาเราย้อนเวลากลับไปสู่ห้วงยุคของบางกอกในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อุดมไปด้วยเรื่องราวชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของชนชั้นกลางเมื่อประมาณ 60-80 ปีที่แล้ว ที่ตอนนี้กลายเป็นมรดกตดกทอดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และรำลึกถึงอยู่เสมอนั่นเอง

เมื่อก้าวเท้าเข้ามาถึงหน้าทางเข้า ‘พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก’ แห่งนี้ เราจะสังเกตเห็นป้ายใหญ่ที่คอยบอกเล่าประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้ ที่กว่าจะกลายมาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เราเห็นกันอยู่นั้น ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นมาได้ด้วยความตั้งใจและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ ‘ท่านอาจารย์วราพร สุรวดี’ ผู้เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินผืนนี้ 

ความตั้งใจดีของอาจารย์วราพรที่ต้องการจะจัดแสดงบ้านและทรัพย์สินต่าง ๆ อันเป็นมรดกตกทอดจาก ‘นางสอาง สุรวดี (ตันบุญเล็ก)’ ผู้เป็นแม่ เพื่อเปลี่ยนบ้านหลังใหญ่แสนอบอุ่นแห่งนี้ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์โบราณ ที่คนรุ่นหลังอย่างเรา ๆ จะได้มาศึกษาเรื่องราวของวิถีชีวิต และสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีต (ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2500) โดยข้าวของและเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่นำมาจัดแสดงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ของท่านอาจารย์วราพร และครอบครัวที่เคยใช้งานอยู่จริงแทบทั้งนั้น

ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีอาคารหลัก ๆ อยู่ทั้งหมด 4 หลัง โดยจะแบ่งเป็นอาคารที่จัดแสดงเรื่องราวของพิพิธภัณฑ์จำนวน 3 หลัง และอีก 1 หลังชั้นล่างนั้นจะเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ ส่วนที่ชั้นสองของอาคารจะเป็นส่วนที่ท่านอาจารย์วราพร สุรวดี เคยพักอยู่จริงจนกระทั่งบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต

หน้าตาของสวนเล็ก ๆ อันเขียวชะอุ่มนี้เป็นบริเวณโดยรอบของตัวบ้านและอาคารทั้ง 4 หลัง ให้ความรู้สึกร่มรื่น อบอุ่นใจ และสบายตา เห็นแล้วก็นึกอิจฉาคนสมัยก่อนที่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ทั้งสวยงามและมีเสน่ห์แบบนี้ แถมพื้นที่ของสวนที่อยู่รอบบ้านหลังนี้ยังเคยมีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็น The Hidden Gems แทรกอยู่เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำหน้าบ้านทอดยาวไปถึงถนนในซอยเจริญกรุง 43 ในปัจจุบันนี้ ที่แต่เดิมนั้นเคยเป็นถึงคลองสายสำคัญสายหนึ่งมาก่อน

หรือแม้แต่พื้นที่ที่เราเห็นว่าเป็นสนามหญ้าหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้นั้น เดิมทีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดนี้ก็เคยเป็นหลุมหลบภัยที่ใช้สำหรับซ่อนตัวหลบระเบิดในภาวะสงครามมาก่อนอีกด้วย 

แม้ว่าปัจจุบันท่านอาจารย์วราพร สุรวดี ผู้ซึ่งเคยเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินผืนที่พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้ จะได้จากโลกใบนี้ไปแล้วอย่างสงบ แต่สิ่งที่ท่านทิ้งเอาไว้ให้โลกใบนี้นั้นถือเป็นมรดกทางความรู้ที่ล้ำค่าเกินว่าจะถูกประเมินเป็นราคาค่างวดใดใด และเราก็หวังเหลือเกินว่าสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าเช่นนี้ จะถูกบำรุงรักษาให้คงอยู่กับเมืองเล็ก ๆ อย่างกรุงเทพฯ และเด็กรุ่นหลังต่อไปอีกนานแสนนาน

เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจอยากมาลองเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก แห่งนี้เหมือนกับเรา  ก็เพียงแค่เดินทางเข้ามายังซอยเจริญกรุง 43 ซึ่งพิพิธภัณฑ์นั้นจะตั้งจะอยู่ตรงข้ามกับไปรษณีย์กลางบางรักนั่นเอง และสำหรับคนมีรถเราก็ขอแนะนำให้จอดรถทิ้งไว้ที่ไปรษณีย์กลางบางรักได้เลย เพราะเสียค่าจอดเพียงชั่วโมงละ 20 บาทเท่านั้น 

ที่สำคัญพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้ยังเข้าชมฟรี! ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น แนะนำเลยสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่รู้จะไปไหน ก็พาตัวเองมาเดินชิล ๆ รับชมความงดงามในอดีตที่มาพร้อมความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านประวัติศาสตร์ไปพร้อมกันได้ ณ ที่แห่งนี้ ...เราไม่อยากให้คุณพลาดเลยจริง ๆ นะ

รายละเอียด พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก

เปิดบริการ วันพุธ – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์และอังคาร)

10.00 - 16.00 น. (ไม่เสียค่าเข้าชม)

บางรัก ซอยเจริญกรุง 43 (เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร)